2565 ปีหนีเสือปะจระเข้


เริ่มศักราชใหม่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 04:50 น.เป็นต้นไป เป็นปีนักษัตรขาลน้ำ“壬寅”(หยิมเอี๊ยง) ธาตุทอง โดยมีเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) “賀諤大星軍” (ห่องักไต่แชกุง) เฝ้าดูแลประจำปี 2565 นี้
 
“賀諤”(ห่องัก) กุนซือในราชวงศ์เหยียน เกิด ณ เมืองอื้อเซี่ยน มณฑลเห๋อหนานเป็นขุนนางตงฉิน ข้าราชบริพารน้ำดีที่เชี่ยวชาญและเก่งกาจกล้าหาญในการทำศึกสงคราม มีความสัตย์ซื่อ รับราชการด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ฉ้อฉลราษฎร์ ไม่เบียดบังหลวง คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตน โดยจะกระทำทุกๆอย่างเพื่อให้ราษฎรมีความสุขบ้านเมืองเจริญรุ่งเรือง
 
โครงสร้างดวงเมืองมีเสาปีขาลน้ำ“壬寅”(หยิมเอี๊ยง) ธาตุทอง เสาเดือนมะโรงไม้“甲辰”(กะซิ้ง) ธาตุไฟ เสาวันมะเมียไฟ“丙午”(เปี้ยโง้ว) ธาตุน้ำ และเสาเวลาเถาะทอง“辛卯”(ซิงเบ้า) ธาตุไม้ ภาคี “三會”(ซาหวย) กำเนิดพลังฤดูกาลธาตุไม้ ส่งกำลังแก่ดิถีวันธาตุไฟ “丙”(เปี้ย) โดยมีดาวผู้นำ “將星”(เจี่ยงแช) และดาวดาบสุริยัน “陽刃”(เอี่ยงยิ่ง) กำกับอยู่ ทั้งยังมีดาวเทพมงคล “天德”(เทียงเต็ก) และ “月德”(หง่วยเต็ก) ปกป้องคุ้มครองดวงเมืองในยามวิกฤติให้แคล้วคลาด รอดพ้น ปลอดภัย ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ กำกับอยู่ที่ราศีบนเสาปี “壬”(หยิม) ธาตุน้ำ กำเนิดราศีบนเสาเดือนธาตุไม้ ส่งกำลังแก่ดิถีวันธาตุไฟให้สว่างเจิดจ้าร้อนแรงเกินความพอดี จำเป็นต้องปรับความสมดุลด้วยธาตุดินและธาตุทองมาเป็นธาตุสำคัญ
 
ในหลักตำรา “易经”(อี้จิง) ธาตุดิน คือ ศาสนา ส่วนธาตุทอง คือ พระมหากษัตริย์ ดังนั้นจึงเป็นปัจจัยที่สามารถยืนยันได้ว่า ชาติบ้านเมืองของเราจำเป็นต้องดำรงคงอยู่ด้วยสถาบันศาสนา และสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยที่คนส่วนใหญ่ต่างเคารพ เทิดทูน และบูชา 
 
วัยจรของดวงเมืองเสวยอายุ 235 จนถึง 244 ปี ที่เสามะโรงดิน “戊辰”(ซิ้ง) ธาตุไม้ พิฆาต “剋”(ขัก) กับราศีบน และวุ่นวาย “刑”(เฮ้ง) กับราศีล่างที่เสาเดือนมะโรงไม้ “甲辰”(ซิ้ง) ธาตุไฟ ทั้งยัง“害”(ไห่) กับราศีล่างของฐานเวลาเถาะ “卯”(เบ้า) ธาตุไม้อีก
 
ส่วนปีจร 2565 ดวงเมืองเสวยอายุครบ 4 รอบ 240 ปี ทั้งราศีบนและราศีล่างเหมือนกันกับเสาปีเกิดของดวงเมืองขาลน้ำ “壬寅”(หยิมเอี๊ยง) ธาตุทอง มีดาว “太歲”( ไท้ส่วย) สถิตอยู่ ทั้งภาคี “三會”(ซาหวย) และ “半三合”(ปัวซาฮะ) กับโครงสร้างดวงเมืองและวัยจร ทวีความร้อนแรงแก่ดิถีวันธาตุไฟเกินความพอดี
 
ขณะที่ปี 2565 นี้ มีดาวห้าเหลือง“五黄” (โหงวอึ๊ง) หรือดาววิบาก“亷貞” (เหนี่ยมเจง) ดาวแห่งโทษภัย ดาวแห่งการสูญเสีย มารับช่วงไม้ต่อจากดาวหกขาว“六白” (หลักแป๊ะ) หรือดาวขุนนาง “武曲”(บูเขี๊ยก) ที่ทิ้งร่องรอยความสูญเสียไว้เบื้องหลังอย่างมากมายเช่นกัน
 
ดุจเคราะห์ซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น...การฉีดวัคซีนแม้จะเปรียบเสมือนแสงสว่างจากปลายอุโมงค์ที่บรรเทาความมืดมิดคลายวิกฤตได้บ้างก็ตาม แต่ไวรัส Covid-19 โรคระบาดกลายพันธุ์ก็ยังทรงอิทธิพลต่อการดำรงชีวิตและความเป็นอยู่อย่างยากลำบากให้ไม่ปกติสุขสงบราบรื่นในสไตล์ New Normal ซึ่งเป็นตัวแปรหนึ่งในอีกหลายหลากปัจจัยที่บั่นทอนดัชนีความเชื่อมั่นและสั่นคลอนความมั่นใจ เช่นสถานการณ์ทางการเมืองที่เปรียบเสมือนการพายเรือในอ่างวกวนกลับไปกลับมา ไม่แล่นทวนกระแสน้ำไปเบื้องหน้าแต่กลับปล่อยตามกระแสน้ำถดถอยไหลลงคลองไปเบื้องหลัง ดั่งวงล้อเวลาหมุนเวียนมาบรรจบฉายหนังซ้ำภาพเหตุการณ์เก่าในอดีตที่เคยเกิดจะปรากฏขึ้นอีกครั้ง การช่วงชิงอำนาจผ่านการเลือกตั้งและลากตั้งสลับปรับเปลี่ยนอำนาจคล้ายสมบัติพลัดกันชม ทั้งชุดยาพิษทางความคิดที่ผิดดิสเครดิตบิดเบือนจากข้อเท็จจริง สร้างความแตกแยกก่อความวุ่นวายจนกลายเป็นประเด็นขัดแย้งให้ต้องใช้กำลังห้ำหั่นกัน ภาคธุรกิจเปราะบางสะดุดหยุดชะงักสกัดเศรษฐกิจให้ถดถอยกัดกร่อนดัชนีเชื่อมั่นในการลงทุน ภาคการเงินผันผวนมีทั้งฝืดและทั้งเฟ้อยากต่อการบริหารและจัดการ การธนาคารต้องสำรองหนี้สูญจากลูกหนี้ที่ผิดนัดชำระให้ต้องถูกฟ้องร้องล้มละลาย จะมีเรื่องใช้จ่ายเพิ่มต้องกู้หนี้ยืมสินจนเต็มเพดานกระทบทั้งคงคลังและทุนสำรอง ค่าครองชีพสูงพุ่งกระฉูดแต่รายรับกลับตกหดหายให้ชักหน้าไม่ถึงหลัง ทั้งอัตราการว่างงานขึ้นฮวบฮาบแรงงานต้องเดินเตะฝุ่นตกงานเพิ่มทะยานให้หนี้สินครัวเรือนท่วมท้น จนมิจฉาชีพเต็มบ้าน นักฉ้อฉลเต็มเมือง นักโกงกินบ้านเมืองคอรัปชั่นมีทั่วทุกวงการ กับสังคมที่ฟอนเฟะ ขาดจิตสำนึก ไร้คุณธรรมและจริยธรรมที่ต้องการบ่มเพาะและปลูกฝัง ตลอดจนอุบัติเหตุเภทภัยพิบัติจากน้ำมือมนุษย์ ภัยพิบัติธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง แผ่นดินแยก ผืนดินสไลด์ ภูเขาถล่ม สารพัดสารพันปัญหาที่ท้าทายและกำลังรอรับการแก้ไขตลอดเวลา
 
วิกฤตการณ์ในปีนี้คงจะหลีกลี้หนี้หน้าได้ก็ต่อเมื่อได้รับการเหลียวแลแก้ไขจากผู้มีอำนาจหน้าที่ที่มีจิตใจใสซื่อ มือสะอาด ยึดผลประโยชน์ของชาติมากกว่าผลประโยชน์ของตนและพวกพ้อง เฉกเช่น ขุนนางตงฉิน “賀諤”(ห่องัก) ข้าราชการน้ำดีที่มีความสัตย์ซื่อ ไม่ฉ้อฉลราษฎร์ ไม่เบียดบังหลวง คำนึงถึงปากท้องพร้อมความผาสุขของประชาชนและความเจริญรุ่งเรืองของประเทศชาติบ้านเมืองเป็นที่ตั้ง เพื่อคนไทยทุกๆคนจักได้ไม่ต้องตีจากวิกฤตหนึ่งเพื่อมาพบประสบกับอีกวิกฤตหนึ่งอย่างสำนวนไทยที่ว่า “หนีเสือปะจระเข้”

Credits : lnka.tw
              in.pinterest.com