2564 ปีวัวลืมตีน


ในปีนี้…หลัง 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 เวลา 22:58 น. ถึง 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 เวลา 04.49 น. เป็นปีฉลูทอง “辛丑”(ซิงทิ้ว) ธาตุดิน มีเทพเจ้าประจำปี 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) “楊信大星軍” (เอี่ยสิ่งไต่แชกุง) ทำหน้าที่ดูแลควบคุมดวงชะตาในปีนี้   
 
 “楊信” (เอี่ยสิ่ง) ครั้นเมื่อเป็นมนุษย์ถือกำเนิดในสมัยราชวงศ์ฮั้น ณ เมืองสั่นตี้ มณฑลสั่นซี เป็นขุนนางตงฉิน มีอุปนิสัยซื่อตรงจงรักภักดี ทำหน้าที่ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ถึงแม้ว่าเขาจะดำรงตำแหน่งบัณฑิตชั้นผู้น้อยไม่ได้มาจากขุนนางที่สูงศักดิ์ แต่ก็มีความเข้มแข็ง กล้าหาญ อดทน ไม่ยอมจำนนต่อแว่นแคว้นอื่นๆที่แสดงอาการหมิ่นพระเกียรติกษัตริย์ของตน
 
อย่างเช่นครั้งเมื่อปีค.ศ.111-116 เขาได้รับการแต่งตั้งจากฮ่องเต้ให้ดำรงตำแหน่งราชฑูต เพื่อเจริญสันถวไมตรีกับ “匈奴”(ซงหนู) ชนเผ่านักรบเร่ร่อนที่อยู่ทางตอนเหนือของจีน ในครานั้นเขาถูกลบหลู่ดูหมิ่นเกียรติในฐานะตัวแทนฮ่องเต้ แต่ก็ไม่ยี่หระ ไม่เกรงกลัว และไม่สะทกสะท้านต่อการกระทำดังกล่าวแต่อย่างใด กลับใช้ไหวพริบและความสามารถ ต่อรองเจรจาเพื่อซื้อเวลาในการสร้างความสัมพันธ์กับชนเผ่าอื่นๆ ส่งผลให้ราชวงศ์ฮั้นมีกำลังอำนาจที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ “单于”(ฉานหวี) ประมุขเผ่า “匈奴”(ซงหนู) ยอมศิโรราบส่งตัวเขากลับสู่ราชสำนัก จนในที่สุดเขาได้รับการยกย่องเทิดทูนให้เป็นเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา “楊信大星軍” (เอี่ยสิ่งไต่แชกุง) ประจำปีฉลูทอง “辛丑”(ซิงทิ้ว)
 
ส่วนดวงเมือง…ดิถีวันเป็นธาตุไฟ “丙”(เปี้ย) ที่ภาคี “三會”(ซาหวย) เป็นธาตุไม้ส่งเสริมดิถีวัน ทั้งยังนั่งอยู่บนนักษัตรมะเมีย “午”(โง้ว) ธาตุไฟ มีดาวผู้นำ “將星”(เจี่ยงแช) และดาวดาบสุริยัน “陽刃”(เอี่ยงยิ่ง) กำกับอยู่ ส่วนดาวเทพมงคล “天德”(เทียงเต็ก) และ “月德”(หง่วยเต็ก) ปกป้องคุ้มครองดวงเมืองในยามวิกฤติให้ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ แคล้วคลาดรอดพ้นปลอดภัย กำกับอยู่ที่ราศีบนปี “壬”(หยิม) ธาตุน้ำ กำเนิดราศีบนเดือนธาตุไม้ส่งเสริมธาตุไฟดิถีวันให้มีกำลังแกร่งกล้าเกินสมดุล  ดังนั้นธาตุดินและธาตุทอง เป็นธาตุสำคัญช่วยปรับธาตุของดวงเมืองให้เกิดความสมดุล
 
ในตำรา “易經”(อี้จิง) หนึ่งในนัยของธาตุดิน หมายถึง ศาสนา และนัยของธาตุทอง หมายถึง พระมหากษัตริย์ จึงเป็นเหตุปัจจัยที่สามารถยืนยันได้ว่า เหตุใดชาติบ้านเมืองของเราจึงจำเป็นต้องดำรงคงอยู่ด้วยสถาบันศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ ศูนย์รวมจิตใจของปวงชนชาวไทยส่วนใหญ่ต่างเคารพและเทิดทูน  
 
ในขณะที่วัยจร ดวงเมืองเสวยอายุ 235 จนถึง 244 ปี ที่เสามะโรงดิน “戊辰”(ซิ้ง) ธาตุไม้ พิฆาตราศีบนแต่เหมือนกับราศีล่างที่เสาเดือนมะโรงไม้ “甲辰”(ซิ้ง) ธาตุไฟ กระทบทั้งสังคม เศรษฐกิจ การเมือง พี่น้องและมิตรสหาย ทั้งยังให้ร้าย “害”(ไห่) กับราศีล่างของฐานเวลาเถาะ “卯”(เบ้า) ธาตุไม้ กระทบถึงลูกหลาน ความหวัง และการเดินทาง
 
ส่วนปีจร 2564 ดวงเมืองเสวยอายุ 239 ปี เป็นปีฉลูทอง “辛丑”(ซิงทิ้ว) ธาตุดิน มีดาวป่วยไข้ “病符”(แป่ฮู้) สถิตอยู่ พิฆาตราศีบนและแตกหัก“破”(พั่ว)กับราศีล่างที่เสาเดือนมะโรงไม้ “甲辰”(ซิ้ง) ธาตุไฟ เข้าเกณฑ์ดวงแตก กระทบเศรษฐกิจ การเมือง พี่น้องและมิตรสหาย ทั้งยังให้ร้าย“害”(ไห่)กับราศีล่างฐานวันมะเมีย “午”(โง้ว) ธาตุไฟ กระทบทั้งการเงิน การธนาคาร การนำเข้า-ส่งออก ตลอดจนสุขภาพร่างกายและโรคภัย
 
หลักคัมภีร์ดาวเหินม่วงขาว “紫白飛星”(จี๋แป๊ะปวยแช) ในปี 2564 นี้มีดาวหกขาว“六白”(หลักแป๊ะ) หรือดาวขุนนาง “武曲”(บูเขี๊ยก) แทนสัญลักษณ์ด้วยดาวเลข 6 ธาตุทอง หมายถึง ขุนนาง ตำแหน่ง ยศศักดิ์ อำนาจ บารมี ตำรวจ ทหาร ผู้ปกครอง เจ้าเมือง การเดินทาง จรสถิตเข้ากลาง ส่งผลต่อข้าราชการชายชั้นผู้ใหญ่หรือผู้บริหารองค์กรบริษัทต่างๆให้มีอำนาจ บารมี มีชื่อเสียง มีจิตใจที่เข้มแข็ง กระตือรือร้น ตลอดจนมีวุฒิภาวะความเป็นผู้นำสูง สามารถแก้ไขปัญหาข้อพิพาทขัดแย้งต่างๆได้อย่างยอดเยี่ยม ร่วมขัดแย้งกับดาวยุค 3 “祿存“(หลกชุ้ง) เป็นดาวอวมงคล ดาวแห่งสงคราม การต่อสู้ การทะเลาะวิวาท การแย่งชิง การใช้กำลัง พละกำลัง การยึดครอง การเป็นอาณานิคมของชนต่างชาติ
 
ในปี 2564 นี้ ดวงเมืองวิปริตบิดเบี้ยวเข้าเกณฑ์ดวงแตก สร้างความแตกแยกก่อวิกฤตแก่บ้านเมือง การเมืองป่วน...เล่นการเมืองแบบไม่ประสา จะเกิดการช่วงชิงอำนาจแก่งแย่งผลประโยชน์เข้าตน จะเกิดการท้าทายอำนาจทั้งม็อบท้องถนน ทั้งม็อบมวลชนสามนิ้ว ต้องกำราบด้วยไม้แข็งแทนไม้อ่อน ผู้หลักผู้ใหญ่ลุแก่อำนาจยึดแนวคิดตนเป็นที่ตั้งไม่ฟังคำทักท้วงห้ามปรามจากผู้น้อยอ่อนด้อยกว่า  เป็นปัญหาต่อการปฏิรูป เป็นอุปสรรคฉุดรั้งต่อการพัฒนาบ้านเมืองให้เดินหน้าอย่างเชื่องช้า ทั้งจากมหามิตรที่คิดว่าสนิทชิดใกล้จะพลิกเป็นศัตรู ครอบงำสร้างความปั่นป่วนให้แก่สังคม สร้างความสับสนให้แก่บ้านเมือง ทั้งต้องจำกล้ำกลืนฝืนทนผลกระทบจาก Covid-19 โรคระบาดเก่า และโรคอุบัติใหม่กลายพันธุ์ ส่งผลให้เศรษฐกิจเกิดวิกฤตฉุดรั้งฝังดัชนีความเชื่อมั่น ดันสถานภาพทางการเงินอ่วมกระทบเงินสำรองคงคลัง การธนาคารกระอักจากหนี้เสีย NPL  ทั้งหนี้สาธารณะท่วมมิดติดเพดาน ทั้งหนี้ครัวเรือนพุ่งทะยานให้อยู่อย่างยากลำบาก ทั้งภัยพิบัติ ภัยธรรมชาติ ภัยจากน้ำมือมนุษย์ฝุ่นควัน สารพันปัญหาที่กำลังรอรับการแก้ไข การใช้ชีวิตแบบวิถีใหม่ New Normal ในโลกเก่าใบเดิมเติมเต็มในสิ่งที่เปลี่ยนไปจะเป็นเรื่องปกติ พร้อมทั้งใช้อย่างพอเพียงอยู่อย่างเพียงพอจึงจะอยู่รอดปลอดภัย
 
ทุกสถานการณ์ที่ถาโถมคงจะไม่บานปลายจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองอย่างที่คนเสี้ยมคาดหวัง หากชาวไทยทุกคนยังคงสมัครสมานสามัคคีและมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน โดยมีสถาบันสูงสุดเป็นศูนย์รวมจิตใจ การอยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี กตัญญูรู้คุณแผ่นดิน ไม่ลืมกำพืดอย่างวัวลืมตีน เฉกเช่นราชฑูต “楊信” (เอี่ยสิ่ง) ขุนนางตงฉิน ข้าราชการน้ำดีที่จงรักภักดีต่อองค์ฮ่องเต้ของตน