ดวงเมือง...ปีชวด 2563


โหราศาสตร์จีนจะนับ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ถึง 3 กุมภาพันธ์ 2564 เป็นปีนักษัตรชวดทอง “庚子”(แกจื้อ) ธาตุดิน 

ปีนี้…เสมือนเป็นปีชวดจอมบ่อนทำลาย ที่มีดาวเจ็ดแสด“七赤”(ชิ๊กเฉียะ) สถิตอยู่ใจกลาง โดยมีเทพเจ้าควบคุมดวงชะตา 太歲爺 (ไท้ส่วยเอี๊ย) ที่ทรงพระนามว่า “盧秘大星軍” (โหล่วปี่ไต่แชกุง) ดูแลประจำในปีนี้ 

องค์เทพเจ้าควบคุมดวงชะตา “盧秘大星軍” (โหล่วปี่ไต่แชกุง) ครั้นเมื่อเป็นมนุษย์ถือกำเนิดในสมัยราชวงศ์หมิง ณ เมืองคุนซาน มณฑลเจียงซู เป็นขุนนางตงฉิน รับราชการด้วยความเสียสละ กล้าที่จะเผชิญกับความยากลำบากแทนประชาชน จึงเป็นที่รักของปวงชนทั้งหลาย และเพราะด้วยคุณงามความดีจากการเป็นขุนนางน้ำดีที่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่กินสินบาท ไม่คาดสินบน จึงยากจน ถึงขนาดแม้ยามสิ้นลมยังไม่มีเงินจัดพิธีศพ จนได้รับการเทิดทูนให้เป็นเทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตาประจำปีชวดทอง “庚子”(แกจื้อ) นี้

หลักคัมภีร์ดาวเหินม่วงขาว “紫白飛星”(จี๋แป๊ะปวยแช) มีดาวเจ็ดแสด“七赤”(ชิ๊กเฉียะ) หรือดาวทำลายกองทัพ “破軍”(พั๊วคุง) แทนสัญลักษณ์ด้วยดาวเลข 7 ธาตุทอง หมายถึง สงครามการทำลายล้าง การแตกหัก การขัดแย้ง การแตกแยก การต่อสู้ การแย่งชิง ทหารแตกทัพ การปล้นทรัพย์ ความว้าวุ่นวุ่นวาย จรสถิตเข้ากลางกระจายกระแสพลังตามตำแหน่งภูมิเดิมทั้ง 9 ทิศ จะเกิดการชิงดีชิงเด่น ต่อสู้ช่วงชิงกันอย่างดุเดือดเลือดพล่าน จนกลายเป็นสงครามทำลายล้างฆ่าฟันต่อกัน เป็นเหตุให้ประเทศทางฝั่งตะวันตกจำเป็นต้องมีการพลิกปรับกลับหลังหัน ทั้งจะเกิดเหตุพิบัติภัยธรรมชาติ อุทกภัย วาตภัย หรือแม้แต่อัคคีภัย ซ้ำร้ายภัยจากโรคระบาด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคที่เกิดจากหนู ฯลฯ 

สำหรับดวงเมือง…ดิถีวันเป็นธาตุไฟ “丙”(เปี้ย) ที่เกิดในฤดูใบไม้ผลิ ภาคี “三會”(ซาหวย) เป็นธาตุไม้ ส่งเสริมดิถีวัน ทั้งราศีล่าง “地支”(ตี่กี) เป็นนักษัตรมะเมีย “午”(โง้ว) ธาตุไฟ โดยมีดาวผู้นำ “將星”(เจี่ยงแช) และดาวดาบสุริยัน “陽刃”(เอี่ยงยิ่ง) กำกับอยู่ ทั้งราศีบน “天千”(เทียงกัง) ปี “壬”(หยิม) ธาตน้ำ ให้กำเนิดราศีบน “天千”(เทียงกัง) เดือน ธาตุไม้ ก่อเกิดเสริมธาตุไฟ “丙”(เปี้ย) ให้มีกำลังแกร่งกล้าเกินสมดุล 

วัยจร “大運”(ตั่วอุ่ง) ดวงเมืองเสวยอายุ 235 จนถึง 244 ปี ที่เสานักษัตรมะโรงดิน “戊辰”(ซิ้ง) ธาตุไม้ พิฆาตราศีบนแต่เหมือนกับราศีล่างที่เสาเดือนนักษัตรมะโรงไม้ “甲辰”(ซิ้ง) ธาตุไฟ ทั้งให้ร้าย “害”(ไห่) กับราศีล่างของเสาเวลานักษัตรเถาะ “卯”(เบ้า) อีก

ปีจร “流年”(หลิ่วนี้) ดวงเมืองเสวยอายุ 238 ปี ดูเหมือนว่าธาตุในวัยจร “大運”(ตั่วอุ่ง) และปีจร “流年”(หลิ่วนี้) จะควบคุมธาตุไฟให้สมดุล แต่กลับเกิดเป็นคราวเคราะห์ที่ต้องเผชิญกับชะตากรรม เหตุเพราะปีชวดทอง “庚子”(แกจื้อ) พิฆาตราศีบนทั้งชงราศีล่าง “反吟”(หวงหงิ้ม) กับเสาดิถีวัน “丙午”(เปียโง้ว) ทั้งดาวผู้นำ “將星”(เจี่ยงแช) และดาวดาบสุริยัน “陽刃”(เอี่ยงยิ่ง) ยังปะทะกับ ดาวเกาทัณฑ์ “箭星”(จี่แช) แถมยังมีดาวหมาสวรรค์ “天狗”(เทียงเก้า) มาสถิตที่ฐานปีราศีล่าง นักษัตรขาล “寅”(เอี๊ยง) อีก 

จึงเข้าเกณฑ์ในด้านลบกระทบให้เกิดการปลุกปั่นบั่นทอนเสถียรภาพ กัดกร่อนบ่อนทำลายความมั่นคง ด้วยการสร้างชุดความคิดผิดๆดิสเครดิตบิดเบือนให้เสื่อมศรัทธา สร้างสังคมให้วิกฤตแตกแยกวุ่นวาย จนกลายเป็นความขัดแย้งหนักถึงขั้นลากอาวุธมาประหัตประหารลงไม้ลงมือต่อกัน การเมืองจะมีการขยับสลับปรับปฏิรูป เศรษฐกิจทั้งภายในและนอกจะพบกับการแข่งขันค่อนข้างสูง ธุรกิจคิดในกรอบจะไปยาก แต่หากคิดนอกกรอบหรือนำนวัตกรรมใหม่ๆร่วมใช้จะไปได้ ทั้งเรื่องใช้จ่ายฉุกเฉินกระทบทุนสำรองกะทันหัน ทั้งคดีความสำคัญๆที่รอคำตัดสินพิพากษา ทั้งปัญหาฉ้อฉลกลโกงที่รอรับการแก้ไข หรือแม้แต่เหตุพิบัติภัยธรรมชาติที่ท้าทาย 

ปัญหาน้อยใหญ่ของไทยคงจะไม่บานปลายจนกลายเป็นความขัดแย้งรุนแรงอย่างเช่นม็อบฮ่องกง เสมือนเป็นบททดสอบเพื่อพิสูจน์ความเป็นผู้นำที่ว่า ยินยอมพร้อมใจที่จะเสียสละ กล้าเผชิญหน้ากับความยากลำบากแทนประชาชน เฉกเช่นขุนนางตงฉิน “盧秘”(โหล่วปี่) ข้าราชการน้ำดีที่ซื่อสัตย์สุจริตหรือไม่ 

ภาพประกอบ: http://www.sages9.com/index.php/chinesedeity