หลักปัจจัยในการเลือกชัยภูมิ


เหตุไฉนทำเลที่ตั้งและรูปทรงของอาคาร จึงเป็นหลักปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งในการเลือกชัยภูมิ
 
ที่ตั้งทำเลชัยภูมิคือ ฐานที่มั่นของอาคารบ้านเรือน สำนักงาน ตลอดจนโรงงานต่างๆ เป็นหลักปัจจัยที่สำคัญอย่างหนึ่งในศาสตร์วิชาฮวงจุ้ยที่จำเป็นจะต้องนำมาพิจารณา เพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกหาทำเลที่ตั้งก่อนดำเนินการก่อสร้างขึ้น เหตุเพราะฐานที่มั่นเปรียบเสมือนหลักรากฐานที่ตรึงติดอยู่กับที่ๆสามารถจะส่งผลกระทบทั้งดีและทั้งร้ายต่อผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณที่ตั้งทำเลนั้นๆ ดังนั้นจึงควรทราบรับรู้ถึงข้อจำกัดและข้อควรปฏิบัติก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อ
 
ลักษณะที่ตั้งทำเลชัยภูมิ
 
ในห้วงช่วงชีวิตของคนเราสักคนกว่าจะได้บ้านหรืออาคารที่อยู่อาศัยสักหลังเป็นเรื่องที่ช่างยากเย็นแสนเข็ญจริงๆ ร้อยทั้งร้อยคงไม่มีใครมั่นใจได้เลยว่า บ้านหรืออาคารที่ตกลงปลงใจเลือกซื้อหลังนั้นๆ จะดี หรือจะถูกโฉลก หรือจะสามารถเสริมส่งต่อพื้นชะตาของคุณได้จริงหรือไม่ อีกทั้งเป็นเรื่องที่ยากและมีโอกาสน้อยที่จะเลือกให้ได้ตามที่ตนต้องการทั้งหมดก็ตาม การปรับปรุงเปลี่ยนแปลงด้วยการตกแต่งแก้ไขข้อบกพร่องเพียงบางส่วนบางอย่างให้เหมาะสมกับพื้นชะตาของคุณก็สามารถกระทำในภายหลังได้เช่นกัน แต่ถ้าหากสามารถพิจารณาเลือกซื้อก่อนการตัดสินใจในเบื้องต้นได้แล้ว สิ่งสำคัญอันดับแรกที่จำเป็นจะต้องคำนึงตั้งแต่ต้นก่อนการเลือกซื้อ คือ ที่ดิน ว่าควรจะเลือกทำเลที่ดินแบบใด ด้วยการสืบประวัติที่มาที่ไปของที่ดินแห่งนั่นเสียก่อน ซึ่งมีหลักในการพิจารณาดังต่อไปนี้
 

  1. ควรหลีกเลี่ยงที่ดินที่เคยเป็นสุสาน หรือที่ๆเคยฝังศพมาก่อน เพราะหากนำที่แบบนี้มาสร้างบ้านอยู่อาศัยย่อมไม่เจริญแน่นอน
  2. ควรหลีกเลี่ยงที่ดินที่เคยเป็นที่ทิ้งขยะมูลฝอยหรือสิ่งปฏิกูล ไม่ควรนำที่ดินนั้นๆมาปลูกสร้างบ้านเรือนและอาคาร หรือแม้แต่ที่ดินที่มีกองขยะอยู่ด้านหน้าที่ดินก็ตาม เพราะจะส่งผลให้เกิดโรคภัยแปลกๆแก่ผู้ที่อยู่อาศัย
  3. ไม่ควรนำที่ดินที่ใช้เป็นถนนหนทางหรือเป็นทางเดินที่ใช้สัญจรกันบ่อยๆมานานแล้วนำมาสร้างบ้านสร้างเรือน จะทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยวุ่นวาย ไม่สงบ ไม่เจริญก้าวหน้าได้เช่นกัน อีกทั้งยังจะเกิดโรคภัยแปลกๆขึ้นได้อีกด้วย
  4. ไม่ควรนำที่ดินที่เป็นคลองหรือริมคลอง แล้วถมเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ลักษณะที่ดินแบบนี้ จะส่งผลให้ผู้ที่อยู่อาศัยอยู่อย่างไม่สงบ วุ่นวาย ไม่เจริญก้าวหน้าได้เช่นกัน
  5. ไม่ควรนำที่ดินที่มีตอไม้ใหญ่ที่ถูกตัดทิ้งไว้แต่มิได้ถอนรากขุดโคนต้นออกให้หมดแล้วปล่อยรากทิ้งไว้ใต้พื้นดิน นำมาสร้างบ้านหรืออาคารคร่อมอยู่ด้านบนเป็นอันขาด เพราะจะส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยเป็นโรคหรือมีลักษณะเพี้ยนไม่ปกติ
  6. ที่ดิน สวน ไร่ นา ที่เคยทำการเพาะปลูกมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นพืชผลชนิดใดก็ตาม ก่อนการปลูกสร้างควรจะเก็บเกี่ยวผลผลิตให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน ประเภทที่เอาดินมาไถ่กลบไม่รอการเก็บเกี่ยวให้แล้วเสร็จ เมื่อเข้าไปอยู่อาศัยแล้วจะถดถอย ล้มเหลว ไม่มีความเจริญ
  7. ที่ดินที่เป็นสถานที่ศึกษาหรือโรงเรียนจะต้องปล่อยให้นักเรียนรุ่นสุดท้ายจบสำเร็จการศึกษาก่อนจึงจะนำมาปลูกสร้างได้ หาไม่จะล้มเหลวถดถอยได้เช่นกัน
  8. ที่ดินที่เคยเป็นโรงฆ่าสัตว์ ไม่เหมาะที่จะนำมาปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนเช่นกัน
  9. ที่ดินที่เคยเป็นสมรภูมิรบ หรือบ้านที่มีผู้อยู่อาศัยถูกฆาตกรรม ซึ่งแตกต่างจากการตายโดยธรรมชาติก็จัดว่าเป็นบ้านอัปมงคลอีกเช่นกัน
 
ข้อควรพิจารณาในการสร้างสิ่งปลูกสร้าง หรือเลือกซื้อบ้านและบริเวณโดยรอบ
  1. แทบจะทุกหมู่บ้าน ทุกโครงการ มักจะพบบ้านหลังใดหลังหนึ่งถูกแนวบ้านตรงข้ามชน ซึ่งจะส่งผลกระทบทางร้ายต่อผู้อยู่อาศัยในบ้านหลังนั้นๆ โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธี การใช้สี และการดัดแปลงรูปทรงรั้ว หรือประตูบ้านก็ได้
  2. หากหน้าบ้านหันสู่ทิศใต้ ไม่ควรสร้างบ้านให้มีลักษณะของประตูบ้านติ่งยื่นออกไปทางทิศใต้เพราะทิศใต้แสดงถึงธาตุไฟ ไม่ควรออกแบบลักษณะรูปทรงที่ยื่นออกไปเสมือนเป็นการเน้นธาตุไฟที่อยู่หน้าบ้านอีก ควรจะปล่อยเป็นแนวเสมอกันจะดีกว่า
  3. หากรูปทรงบ้านเป็นสี่เหลี่ยมที่มีลักษณะเป็นธาตุดินถูกบ้านใกล้เรือนเคียงที่มีรูปทรงเป็นตึกสูงลักษณะธาตุไม้มาข่มอยู่ จะส่งผลกระทบให้เกิดความไม่สงบสุข เพราะด้วยลักษณะของรูปทรงเกิดการพิฆาตกัน
  4. ก่อนการปลูกสร้างควรพิจารณาถึงบริเวณโดยรอบก่อนด้วยว่า ไม่ควรให้สิ่งปลูกสร้างสูงหรือเตี้ยกว่าเพื่อนบ้าน ควรอยู่ในระดับความสูงที่ไล่เลี้ยใกล้เคียงกัน เหตุเพราะลักษณะที่สูงกว่าจะเด่นกว่า ส่งผลกระทบให้ถูกเขม่นหรือเข้ากับคนอื่นได้ยาก แต่หากเตี้ยกว่าจะถูกข่มเอาได้
  5. สิ่งปลูกสร้างอาคารพาณิชย์ที่อยู่ซอยตัน ไม่ว่าจะเป็นหลังสุดท้ายด้านซ้ายหรือด้านขวาก็ตาม ล้วนได้รับผลกระทบในทางลบเช่นกัน เพราะซอยตันจะทำให้กระแสหมุนเวียนของพลังเกิดการติดขัดถูกกีดกั้นให้ไม่ไหลเวียน แต่ถ้าหากปล่อยให้มีบริเวณเนื้อที่ว่างสุดซอยระหว่างกำแพงของโครงการกับสิ่งปลูกสร้างหลังท้ายสุดทั้งด้านซ้ายและด้านขวาแล้ว ก็จะช่วยให้กระแสของพลังหมุนเวียนได้อย่างราบเรียบ
  6.  ควรเลือกสิ่งปลูกสร้างที่อยู่ทางโค้งลักษณะโอบอุ้มมากกว่าทางโค้งที่เฉือนออกจะดีกว่า
 
หลังจากได้ทำเลที่ตั้งและรูปแบบอาคารสิ่งปลูกสร้างที่เหมาะสมแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยหลักที่ควรพิจารณาก็คือ เรื่องของฤกษ์ยาม ก่อนการปลูกสร้างหรือเลือกเข้าอยู่ครั้งใดๆ ควรจะต้องวางฤกษ์ยามประกอบให้สอดคล้องกับทิศทางประธานบ้านและเจ้าชะตา เพื่อช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลแก่เจ้าของบ้านและผู้ร่วมอยู่อาศัย โดยการวางรากฐานธุรกิจอย่างมั่นคงด้วยความมั่นใจ เพราะฮวงจุ้ยออกแบบได้จริง